sutrep1 - กปกรมประชาสงเคราะห์ : 3 รัฐมนตรี ในรัฐบาลประยุทธ์ พ้นตำแหน่งในทันที หลังศาลสั่งจำคุกคดี กปกรมประชาสงเคราะห์ แม้กระนั้นหลุดข้อหากบฏ

กปกรมประชาสงเคราะห์ : 3 รัฐมนตรี ในรัฐบาลประยุทธ์ พ้นตำแหน่งในทันที หลังศาลสั่งจำคุกคดี กปกรมประชาสงเคราะห์ แม้กระนั้นหลุดข้อหากบฏ

ศาลอาญาพิพากษ์จำคุกแกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “คณะกรรมการประชากรเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปเมืองไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่บริบูรณ์อันมีพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประมุข” (กปกรมประชาสงเคราะห์) ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 9 ปีเศษ โดยมี 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อำเภอ ประยุทธ์ จันทร์อร่อย ถูกพิพากษ์จำคุกด้วย แล้วก็ต้องหลุดจากตำแหน่งทันที เพราะเหตุว่าขาดคุณลักษณะตามรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (24 เดือนกุมภาพันธ์) ศาลอาญา ถนนรัชดา นัดหมายฟังคำตัดสินคดีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตกาลเลขาธิการ กปกรมประชาสงเคราะห์ กับพวกรวม 39 คน เป็นเชลยในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ทำลายระบอบการปกครอง สุมหัวรวมกันก่อความไม่สงบในบ้านเมืองฯ แล้วก็ข้อกล่าวหาอื่นๆจากการรวมกันด้านการเมืองเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา
เฉพาะนายสุเทพ แล้วก็นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นเชลยคดีก่อการร้ายโดยวิธีการใช้
คดีนี้อัยการที่ทำการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นสำนวนฟ้องแกนนำ 9 คนนำโดยนายสุเทพต่อศาลอาญา แล้วก็ต่อมาฟ้องเพิ่มเติมอีก 30 คน รวมเป็น 39 คน ตอนวันที่ 24 มกราคม 2561 เชลยทั้งหมดให้การไม่ยอมรับแล้วก็ได้รับการประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีทุกคน

sutrep2 - กปกรมประชาสงเคราะห์ : 3 รัฐมนตรี ในรัฐบาลประยุทธ์ พ้นตำแหน่งในทันที หลังศาลสั่งจำคุกคดี กปกรมประชาสงเคราะห์ แม้กระนั้นหลุดข้อหากบฏ
อ่านคำตัดสินกว่า 7 ชั่วโมง

ศาลใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง ในการอ่านพิพากษ์ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จำคุก 5 ปี
นายชุมพล จุลใส จำคุก 9 ปี 24 เดือน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จำคุก 7 ปี
นายอิสสระ สมชัย จำคุก 7 ปี 16 เดือน
นายวิทยา แก้วภราดัย จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
นายถาวร เสนเนียม จำคุก 5 ปี
นายณัฏฐพล ครั้งปสุวรรณ จำคุก 6 ปี 16 เดือน
นายเอกนัฏ พร้อมชนิด จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
สำหรับเชลยรายอื่นๆที่ต้องคำตัดสินจำคุกในคดีเดียวกัน ประกอบด้วย
นางสาว อัญชะลี ศัตรูรัก จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
นายถนอม อ่อนเกตุพล จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
นายสมอำนาจ โกศัยสุข จำคุก 3 ปี
นายสุวิทย์ ทองคำวิเศษ หรือพระพุทธอิสระ จำคุก 4 ปี 8 เดือน
นายแสดง เซกัลป์ จำคุก 2 ปี รองลงอาญา ปรับ 26,666 บาท
พล.อำเภอท. วัชระ ฤทธีคนี จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
พล.ร.อ. ชัย สุวรรณภาพ จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
ร.ต. แซมดิน ยอดเยี่ยมบุศย์ จำคุก 4 ปี 16 เดือน
นายมั่นแม่น กะการดี จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
นายคมสัน ทองคำศรี จำคุก 2 ปี
นายสาวิทย์ แก้วหวาน จำคุก 2 ปี
นายสุริยะใส กตะหิน จำคุก 2 ปี
นายสบาย รอดเพชร จำคุก 2 ปี 16 เดือน
นายอมร อมรรัตนานนท์ จำคุก 20 เดือน
นายพิเชษฐ พัฒนโชติ จำคุก 1 ปี คอยลงอาญา ปรับ 13,333 บาท
นายกิตติเตียนชัย ใสสะอาด จำคุก 4 เดือน คอยลงอาญา ปรับ 6,666 บาท
นางทยา ครั้งปสุวรรณ จำคุก 1 ปี 8 เดือน คอยลงอาญา ปรับ 26,666 บาท

3 รัฐมนตรี พ้นตำแหน่ง

ผลจากคำตัดสินศาลวันนี้ ทำให้ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อำเภอ ประยุทธ์ ยกตัวอย่างเช่น นายณัฏฐพล ครั้งปสุวรรณ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจแล้วก็สังคม แล้วก็นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ต้องพ้นจากตำแหน่งในรัฐบาลทันที เพราะเหตุว่าความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตาม 160(7) แล้วก็มาตรา 170(4) ของรัฐธรรมนูญ แม้คดียังไม่ถึงที่สุดก็ตาม ซึ่งนายวิษณุ เครือสวย รองนายกฯ เป็นผู้ออกมายืนยันในเรื่องนี้
ส่วนกรณีของ ส.ส. มีการพินิจพิจารณากันในหมู่นักการเมืองว่าถ้าเกิดยึดตามบรรทัดฐานคดีนายเทวดาไท เสนตระกูล อดีตกาล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สถานภาพของพวกเขาต้องสิ้นสุดลงตามมายี่ห้อ 98(6), 101(6) ถ้าเกิดต้องคำตัดสินให้จำคุกและไม่ได้รับการประกันตัว

ตัดสิทธิการบ้านการเมือง 7 คน

แต่ว่าสำหรับนายณัฏฐพล ครั้งปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชราชการ, นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร ปชป. แล้วก็นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ต้องหลุดจากสภา เนื่องด้วยศาลอาญายังสั่งเพิกถอนสิทธิด้านการเมืองของพวกเขาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งนอกจากเชลย 3 คนนี้ ยังมีคำบัญชาเพิกถอนสิทธิการบ้านการเมืองของนายสุวิทย์ ทองคำวิเศษ, ร.ต. แซมดิน ยอดเยี่ยมบุศย์, นายสบาย รอดเพชร แล้วก็นางทยา ครั้งปสุวรรณ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าพอใจลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ด้วย
แต่ในข้อกล่าวหากบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ศาลวิเคราะห์หลักฐานแล้วมีความคิดเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญเคยวิเคราะห์เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มุ่งหมายรัฐบาลลาออก ให้มีการปฏิรูปเพื่อจัดการกับปัญหาประเทศก่อนเลือกตั้ง จึงไม่มีลักษณะทำลายการปกครองตามรัฐธรรมนูญ โดยที่คำชี้ขาดรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร วิเคราะห์แล้วไม่มีเจตนาความผิดฐานกบฏ

สาเหตุของภาพ,THAI NEWS PIX
คำบรรยายภาพ,
อดีตกาลแกนนำ กปกรมประชาสงเคราะห์ เดินทางมาถึงศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษา

sutrep3 - กปกรมประชาสงเคราะห์ : 3 รัฐมนตรี ในรัฐบาลประยุทธ์ พ้นตำแหน่งในทันที หลังศาลสั่งจำคุกคดี กปกรมประชาสงเคราะห์ แม้กระนั้นหลุดข้อหากบฏ

“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

ก่อนเข้าไปในห้องพิจารณาคดีเพื่อฟังคำตัดสิน นายสุเทพพูดว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” โดยกล่าวว่าเชลยทั้ง 39 คนได้คุยกัน แล้วก็ทำใจไว้แล้วไม่ว่าผลคำตัดสินจะออกมาอย่างไร แต่ว่าย้ำว่าการต่อสู้ของพวกเขาเป็นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง ตั้งมั่นความประพฤติที่รับผิดชอบ มิได้ต้องการฝ่าฝืนกฎหมาย เคารพนับถือกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม แล้วก็น่าสดชื่นมากมายทุกกรณีทุกจังหวัดที่แนวร่วม กปกรมประชาสงเคราะห์ ถูกดำเนินคดี ไม่มีผู้ใดแอบหนีคดี
ในช่วงเวลาที่บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดา มีประชากรเดินทางมาให้กำลังใจเชลยทั้ง 39 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นรอบๆพื้นที่ศาล
• “ม็อบนกหวีด” กับ 4 เรื่องเบื้องหลัง กปกรมประชาสงเคราะห์
• สุเทพ: “สิ่งที่ยอดเยี่ยมภายใต้ความเป็นไปได้คือ พล.อำเภอประยุทธ์”
• วันเกิดครบรอบ 68 ปีกับ 4 ตำนานการบ้านการเมืองของ “กำนันสุเทพ”
• สุเทพ-ทักษิณ ครบ 70 ปี พวกเขาจะอยู่ในการเมืองไทยไปอีกนานมากแค่ไหน
กปกรมประชาสงเคราะห์ นำโดยนายสุเทพจัดการรวมกันเป็นครั้งแรกตอนวันที่ 31 เดือนตุลาคม 2556 บริเวณ ถนนเลียบสถานีรถไฟสามเสน กรุงเทพฯ เพื่อต่อต้านการส่งเสริมร่างพระราชบัญญัติ (พระราชบัญญัติ) นิรโทษกรรม “ฉบับสุดซอกซอย” ของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ คุ้นชินวัตร แปลงเป็นจุดเริ่มของการรวมกันบนท้องถนนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การบ้านการเมืองไทยที่ลากยาวเป็นเวลา 204 วัน ก่อนที่จะหมดในวันที่ 22 พ.ค. 2557 เมื่อ พล.อำเภอ ประยุทธ์ จันทร์อร่อย นำภาควิชารักษาความเรียบร้อยแห่งชาติยึดอำนาจ
สำหรับความประพฤติความผิดที่อัยการเล่าในคำฟ้อง สรุปสาระสำคัญได้ว่า
• จัดตั้งคณะบุคคลที่ใช้ชื่อว่า กปกรมประชาสงเคราะห์
• ร่วมกันสุมหัว เป็นอั้งยี่ ซ่องโจร จัดตั้งกองกำลัง แบ่งหน้าที่กันทำก่อความผิดต่อความยั่งยืนมั่นคงของเมืองด้านในแว่นแคว้น
• ยุยงปลุกระดมให้ประชากรทั้งประเทศกระด้างกระเดื่อง ร่วมรวมกันเฉดหัวไล่ นางสาว ยิ่งลักษณ์ คุ้นชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ในเวลานั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง
• กัดกันการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อไม่ให้นายกรัฐมนตรี แล้วก็ ครม. ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ
• ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปกรมประชาสงเคราะห์
• แต่งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็น “รัฐบาลประชากร” เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งนายกรัฐมนตรี แล้วก็ ครม. โดยจะนำรายนามขึ้นกราบบังคมทูลฯ เอง
• จัดตั้งกองกำลังส่วนใดส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการแล้วก็หน่วยงานสำคัญหลายที่ เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้
• ขัดขวางกัดกันทางคมนาคมขนส่งส่งผลให้ประชากรได้รับความเดือดร้อน
• ปิดกรุงเทพฯ ด้วยการตั้งเวทีทักทาย 7 จุดทั่วกรุงเทพฯ ขัดขวางเส้นทางการจราจร จัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ วางเครื่องกั้น ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวเนื่อง

กลุ่มผู้ที่ได้การสนับสนุนมาให้กำลังใจผู้ต้องหาคดีกบฏ กปกรมประชาสงเคราะห์ ที่หน้าศาลอาญา

ศาลไม่ให้รับรอง เข้าเรือนจำทันที 8 คน

เมื่อเวลา 19.34 น. นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตกาลแกนนำ ปปกรมประชาสงเคราะห์ เดี๋ยวนี้ครองตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพ โพสต์ทางบัญชีเฟซบุ๊กว่า “กำนัน พี่ตั้น พี่บี พี่ลูกหมี พี่ถาวร มิได้ประกันตัวขอรับ ???” ซึ่งก็คือ
• นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
• นายณัฏฐพล ครั้งปสุวรรณ
• นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
• นายชุมพล จุลใส
• นายถาวร เสนเนียม
ส่วนอีก 3 คน ยกตัวอย่างเช่น
• นายสุวิทย์ ทองคำวิเศษ หรือพระพุทธอิสระ
• ร.ต. แซมดิน ยอดเยี่ยมบุศย์
• นายอิสสระ สมชัย
sutrep4 - กปกรมประชาสงเคราะห์ : 3 รัฐมนตรี ในรัฐบาลประยุทธ์ พ้นตำแหน่งในทันที หลังศาลสั่งจำคุกคดี กปกรมประชาสงเคราะห์ แม้กระนั้นหลุดข้อหากบฏ
สาเหตุของภาพ,THAI NEWS PIX
คำบรรยายภาพ,
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในห้องกักที่ศาลอาญา หลังคำพิพากษา เปลี่ยนแปลงชุดเป็นเสื้อเหลืองเพื่อคอยส่งไปเรือนจำ
ราว 20.30 น. ผู้ต้องขังทั้ง 8 คน ถูกนำตัวจากศาลอาญาขึ้นรถกักของเรือนจำไปจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีประชากรปริมาณหนึ่งเดินทางมาส่ง พร้อมขับร้อง “สู้ไม่ถอย” ที่ใช้ร้องระหว่างการรวมกันปิดกรุงเทพฯ แล้วมีเสียงตะคอกว่า “คนไม่ดีหนีหมด คนดีหนีเข้าเรือนจำ คนไม่ดีหนีไปยังประเทศต่างๆ ต่อไปคนไหนจะออกมาสู้”
นางทยา ครั้งปสุวรรณ ที่ถูกจำเรือนจำ 1 ปี 8 เดือน คอยลงอาญา ปรับ 26,666 บาท กล่าวกับผู้รายงานข่าวหน้าศาลในภาวะหนีบไม้เท้าที่แขนทั้งสองข้างว่า ผู้ต้องโทษทั้งหมดจะยื่นอุทธรณ์แล้วก็ขอประกันตัวอีกรอบ
นอกจากคดีกบฏ กปกรมประชาสงเคราะห์ ชุดใหญ่ ยังมีคดีย่อยๆที่ถูกแยกสำนวนออกไป โดยศาลอาญาพิพากษ์เมื่อ 25 ก.ค. 2562 ยกฟ้อง 4 แกนนำ กปกรมประชาสงเคราะห์ ประกอบด้วย นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, นายเสรี วงษ์มณฑา, นายโภคทรัพย์ ทรงร่ำรวยญวงศ์ แล้วก็นายสกลธี ภัททิยกุล ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏแล้วก็อื่นๆรวม 8 ข้อกล่าวหา โดยบอกเหตุผลว่าหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังไม่เพียงพอฟังได้ว่าเชลยทั้ง 4 กระทำผิดตามฟ้อง ต่อมาอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์นัดหมายอ่านคำตัดสินในวันที่ 6 พ.ค.