
“ดาร์บี้แมตช์ลอนดอน” จบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไปแบบไม่มีสกอร์ หลัง เชลซี แม้ว่าจะเป็นไปได้อย่างมากกว่าแต่เจาะ สเปอร์ส ไม่เข้าก่อนจบด้วยการเท่ากันไป 0-0 ทำให้ “ไก่เดือยทอง” มี 21 แต้มเท่ากับ หงส์แดง แต่ลูกได้เสียดีมากยิ่งกว่าทำให้แซงขึ้นนำผู้นำฝูง ส่วน “สิงห์บลูส์” รั้งชั้น 3 มี 19 คะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเป็น “ลอนดอนดาร์บี้” ระหว่างเจ้าถิ่น เชลซี จัดการ สเปอร์ส ซึ่งเกมนี้ถ้าเกิดกลุ่มใดคว้าสามแต้มได้จะแซง หงส์แดง ขึ้นนำผู้นำฝูงทันที
แฟร้งค์ แลมพาร์ด จัดสามหน้าอีกทั้ง ฮาคิม ซิเย็ค, แทมมี่ อับราฮัม และก็ ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ ส่วนทางฝั่ง โชเซ่ มูรินโญ่ มี แฮร์รี่ เคน หน้าเป้าและก็ให้ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น, ต็องกี เอ็นด็อมเบเล่ และก็ดื้อรั้น ฮึง-มิน ปั้นเกมเกื้อหนุน
เริ่มเกมมาไม่ถึง 2 นาที “สิงห์บลูส์” ได้ทักก่อนเลย หลัง ฮาคิม ซิเย็ค ตะบันนอกกรอบบอลพุ่งแรงแต่ยังไปเข้ามือ อูหรูหรา โยริส
นาที 9 “ไก่เดือยทอง” เกือบชิงขึ้นนำไปก่อนหรือหลังบอลสวนกลับขึ้นมาถึง เรกีล่อน ฝากเข้ากลางให้ แฮร์รี่ เคน ก่อนแทงเร็วถึง สตีเว่น เบิร์กไวจ์น แต่งเข้าขวาแต่ซัดโผบินคานไปแบบได้เสียว
อีกสองนาทีต่อมา เมสัน เมาท์ พนันบอลให้ ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปซัดหนีมือ อูหรูหรา โยริส เบียดเสาเข้าไปแล้ว แต่ทว่าผู้ตัดสินไม่ให้ประตูเหตุเพราะ แวร์เนอร์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
นาที 15 สเปอร์ส ได้ลุ้นอีกหลัง แซร์ช โอริเย่ร์ กดด้วยขวาเต็มแรงนอกกรอบ แต่บอลยังไม่ห่างตัว เอมองอาร์ เมนดี้ ที่พุ่งปัดออกไปได้
นาที 29 เป็นจังหวะของ เมสัน เมาน์ท รับบอลจาก ก็องเต้ ก่อนเลี้ยงเข้าหน้ากรอบล็อคหนี มูสซ่า ซิสโซหรูหรา ก่อนกดด้วยซ้ายบอลพุ่งสูงเลยคานออกไป
ไม่ถึงนาทีต่อมา สเปอร์ส ตอบโต้ขึ้นมาก่อนได้ฟรีคิกกว่า 25 หลานอกกรอบแต่ แฮร์รี่ เคน ปั่นผ่านกำแพงหลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น
ท้ายเกมจังหวะเป็นของเจ้าบ้านมากกว่า นาที 36 โจ โรดอน โขกบอลทิ้งมาเข้าทาง เบน ชิลเวลล์ แต่อดีตฟูลแบ็กเลสเตอร์วอลเลย์ด้วยขวาหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง
จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันมิได้ เชลซี เสมอกับ สเปอร์ส แบบไม่มีสกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง เจ้าบ้านโหมบุกอย่างมาก นาที 48 รีซ เจมส์ ครอสมาให้ แทมมี่ อับราฮัม โขกหลุดกรอบ แล้วอีก 3 นาทีต่อมา อับราฮัม ได้ช่องซัดหน้ากรอบอีกทีแต่บอลก็หลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น
นาที 65 มูรินโญ่ แก้เกมด้วยการส่ง โจวานนี่ โล เซลโซ่ มาเล่นแทน ต็องกี เอ็นด็อมเบเล่ ก่อนนาที 74 แลมพาร์ด จะถอดเอา ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ ออกแล้วส่ง คริสเตียน พูลิซิช ลงเล่นแทน
นาที 81 เป็นจังหวะส่องเข้ากรอบหนแรกของครึ่งหลังทั้งสองกลุ่ม และก็เกือบเป็นประตูขึ้นนำของเจ้าถิ่น หลัง เมสัน เมาน์ท ลากตัดเข้าหน้ากรอบก่อนตะบันด้วยขวาเน้นๆบอลพุ่งจะเสียบเสาอยู่สุดแท้แต่ อูหรูหรา โยริส จะไวพุ่งบินปัดปลายมือออกไป
ตอนทดเจ็บ นาที 90+3 สเปอร์ส มาเสียโอกาสทองที่คว้าชัยหลังบอลสวนกลับมาถึงหน้าประตูแต่ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ตัดสินใจพลาดเลือกยิงหลุดกรอบออกไปแบบน่าผิดหวัง
จบเกม ทำอะไรกันมิได้ เชลซี เสมอกับ สเปอร์ส แบบไม่มีสกอร์ 0-0 แบ่งแต้มกันไป ทำให้ “ไก่เดือยทอง” มีเพิ่มเป็น 21 แต้มเท่ากับ “ลิเวอร์พูล” แต่ลูกได้เสียดีมากยิ่งกว่าทำให้แซงนำผู้นำฝูงส่วน เชลซี รั้งชั้น 3 มี 19 คะแนนตามผู้นำฝูงสองแต้ม
รายนามผู้เล่นทั้งสองกลุ่ม
เชลซี (4-3-3) : เอมองอาร์ เมนดี้ – รีซ เจมส์, เคิร์ต ซูม่า, ว่ากล่าวอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์ – มัตเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เมาน์ท – ฮาคิม ซิเย็ค (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.83), แทมมี่ อับราฮัม (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.79), ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ (คริสเตียน พูลิซิช น.74)
ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
สเปอร์ส (4-3-3) : อูหรูหรา โยริส – แซร์ช โอริเย่ร์, โจ โรดอน, เอริก ดายเอ้อร์, เซร์คิโอ เรกีล่อน – มูสซ่า ซิสโซหรูหรา, ปิเครื่องปรับอากาศ-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก – สตีเว่น เบิร์กไวจ์น (เบน เดวิส น.89), ต็องกี เอ็นด็อมเบเล่ (โจวานนี่ โล เซลโซ่ น.65), ดื้อรั้น ฮึง-มิน (ลูคัส มูร่า น.90+2) – แฮร์รี่ เคน
ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์