ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันพุธที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขัน นัดที่ 19 ครึ่งซีซั่น ระหว่าง จ่าฝูง อินเตอร์ มิลาน เปิด จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า รับมือ โตริโน่ ทีมอันดับ 11 ก่อนจะพักเบรกแล้วมาแข่งขันต่อในช่วงหลังปีใหม่
“งูใหญ่” ผลงานแจ๋วมาก ชนะในลีกมา 6 นัดรวดแล้วก็ไม่มีปราชัยในเซเรีย อา มา 10 เกมติด นัดปัจจุบันบุกกระหน่ำ ซาแลร์นิตาน่า ตอนที่ โตริโน่ ชนะในลีกมา 2 เกมติด โดยปัจจุบันเปิดบ้านเชือดเอาชนะ เวโรน่า 1-0
ซิโมเน่ อินซากี้ ผู้จัดการทีมอินเตอร์ มิลาน เกมนี้ส่ง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ยืนล่าตาข่ายคู่กับ เอดิน เชหรูหรา ตอนที่ “วัวกระทิงหิน” ของ อิวาน ยูริช จัดสามผสานทั้ง โยซิป เบรคาโล่, มาร์โก ปาก้า แล้วก็อันโตนิโอ ซานาเบรีย เป็นหน้าเป้า
เกมผ่านถึงครึ่งชั่วโมง นาที 30 “งูใหญ่” ทะยานออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เอดิน เชหรูหรา ด้านบอลทางซ้ายก่อนเลี้ยงจี้เข้าในจุดโทษแล้วปาดเข้ากลาง โบรโซวิช ปล่อยบอลก่อนถึง เดนแซล ดุมฟรีส์ วิ่งมาซัดพุ่งเสียบมุมเข้าไป
นาที 38 เจ้าของบ้านได้โอกาสได้เม็ดลำดับที่สองขึ้นนำข้างหลัง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะต้องบอลหลบนายด่านโตริโน่ได้สุดแท้แต่จังหวะยิงหลักไม่ดีทำให้ยิงไม่ตรงกรอบบอลออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนจบครึ่งแรกที่ “งูใหญ่” เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0
ช่วงหลัง แม้กลุ่มเยือนจะโหมบุกแล้วก็ได้โอกาสในนาที 67 จากฟรีคิกของ ซาซ่า ลูคิช, แต่ว่าบอลก็ยังไม่ผ่านมือของ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ที่คุ้มครองปกป้องไว้ได้
ช่วงท้ายเกม นาที 88 อเล็กซิส ซานเชซ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองได้โอกาสซัดแต่ว่าบอลก็ยังไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย จบเกม อินเตอร์ มิลาน เชือดเอาชนะ โตริโน่ 1-0 เก็บสามแต้มพร้อมนำหัวหน้าฝูงในเลกแรกได้เสร็จ โดยมีเพิ่มเป็น 46 คะแนน ส่วน “วัวกระทิงหิน” แพ้ในรอบ 5 เกมลีกปัจจุบันยังรั้งที่ 12 มี 25 แต้มดังเดิม ก่อนเซเรีย อา จะหยุดพักเบรกแล้วกลับมาแข่งอีกทีในวันที่ 6 มกราคมปีหน้า
รายนาม11ผู้เล่นทั้งสองกลุ่ม
อินเตอร์ มิลาน (3-5-2) : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช – มิลาน สคริเนียร์, สเตฟาน เดอ ฟราย, อเลสซานโดร บาสโตนี่ – เดนแซล ดุมฟรีส์, อาร์ตูโร่ วีดาล, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ฮาคาน คัลฮาโนกลู, อิวาน เปริซิช – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, เอดิน เชหรูหรา
โตริโน่ (3-4-2-1) : วานคุณย่า มิลินวัววิช-ซาวิช – กอฟฟี้ ฌีฌี่, เบรเมอร์, อเลสซานโดร บอนจอร์โน่. – วิลฟรีด ซิงหรูหรา, ตอมมาโซ่ โปเบก้า, ซาซ่า ลูคิช, โอลา ไอน่า – โยซิป เบรคาโล่, มาร์โก ปาก้า – อันโตนิโอ ซานาเบรีย