jenie1 - มาแบบเต็มๆ "เจนนี่-ยิว" เปิดใจเคลียร์ทุกดราม่า และโมเมนต์ "ยิว" คุกเข่า (ซ้อม) ขอแต่งงาน

มาแบบเต็มๆ “เจนนี่-ยิว” เปิดใจเคลียร์ทุกดราม่า และโมเมนต์ “ยิว” คุกเข่า (ซ้อม) ขอแต่งงาน

ครั้งแรกตอบครบจบทุกประเด็น สำหรับนักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ที่วันนี้ขอควงแฟนหนุ่ม ยิว ฉัตรมงคล มาเปิดเผยความรักสุดสวีท จนมีข่าวลือว่าท้อง แถมหลายคนมองออกตัวแรง

มูฟออนจากคนเก่าเร็วหรือคบทับกันแน่ อีกทั้งจัดการดราม่า เปรียบ ลิซ่า ฟ้องสั้นคีย์บอร์ด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา, อาจารย์เป็นเยี่ยม รวมทั้งบูม สุภาพร เป็นโฆษกดำเนินรายการ

ดูสวยขึ้น ผ่องใสขึ้นไปทำอะไรมา?

เจนนี่ : “มีเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเพิ่งไปทำศัลยกรรมมา จ้ะ ก็เลยทำให้ดูดีขึ้นนิดหน่อยนึง”

ในข่าวพูดว่าท้อง ตกลงเรื่องจริงท้องหรือไม่ท้อง?

เจนนี่ : “ล่าสุดยังไม่ท้องนะคะ แต่ถัดไปก็ต้องรอดูกันอีกครั้ง ด้วยเหตุว่าจริงๆก็รออยู่เหมือนกัน กลัวว่าวันนี้บอกไม่ท้อง แล้วท้องเฟ้อมา สักครู่จะเป็นเรื่องได้ จริงๆเป็นรออยู่ เนื่องจากว่าแม่ต้องการให้มี อันนี้พูดตรงไปตรงมาเลยเนื่องจากว่าเราก็ต้องการมีด้วย”

เป็นเราไม่ซีเรียส?

เจนนี่ : “ไม่จ้ะ ถ้าท้องก็เอาเลย ต้องการมีลูกจ้ะ ถ้าวันนี้ตรวจแล้วท้อง ก็คือบอกเลย เป็นคนกุมความลับไม่อยู่”

แล้วที่คนมาว่าผ่องใสเหมือนคนท้องสรุปและเป็น?

เจนนี่ : “บวมน้ำเกลือจ้ะ แล้วแพทย์บอกห้ามออกกำลังกาย 3 เดือนซึ่งช่วงนี้ก็เพิ่งครบ 3 เดือน ได้ 2 วัน แล้วอีกอย่างตอนนี้นอนหลับพักผ่อนเพิ่มมากขึ้น ไม่มีคอนเสิร์ตก็เลยทำให้ดูอ้วนขึ้น”

เพิ่งอายุ 26 แล้วต้องการมีลูก มันจะไม่เร็วเกินไปเหรอ?

เจนนี่ : “จริงๆหนูต้องการมีลูกก่อนอายุ 30 ต้องการมี 2-3 คน แล้วหนูก็คุยกับแม่ตลอดมา แล้วแม่เราร่างกายก็แก่ลงทุกวัน เราก็ต้องการมีอะไรซักอย่างที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับแม่ ให้ท่านแม่ต้องการมีชีวิตต่อ รวมทั้งดำเนินชีวิตอย่างสนุก ก็เลยวางแผนไว้ว่าต้องการมีลูก”

เรามิได้ซีเรียสกับเรื่องสมรสเหรอ?

เจนนี่ : “มิได้ซีเรียสจ้ะ หนูมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ สมมุติว่าถ้าวันนึงท้องจริงๆบางทีก็อาจจะต้องมานั่งคิดอีกครั้ง ว่าจะแต่งกันเลย หรือคอยให้ลูกโตก่อน เป็นอยู่ที่สถานการณ์ด้วยจ้ะ เนื่องจากว่าถ้าสมรสกันตอนนี้ มันโควิดด้วย มันก็อยู่ที่เราเลือกอนาคตมากกว่าจ้ะ”

น้องคนยิวปีนี้อายุเยอะแค่ไหน ได้ยินที่แฟนกล่าวมีความคิดว่าเราอายุน้อยไปไหม?

คนยิว : “22 ปีนะครับ ผมว่าเรื่องอายุมันไม่น่าจะเกี่ยวนะครับ เนื่องจากว่ามันสุดแต่บุคคลมากกว่า ถ้าเรา 2 คนพร้อม ก็คือพร้อมนะครับ”

เจอกันที่กองถ่ายเอ็มวี ผู้ใดกันเป็นฝ่ายจีบผู้ใดกันก่อน?

เจนนี่ : “ในเอ็มวีเป็นยังมิได้จีบกัน ตอนนั้นมาทำงานด้วยกันเฉยๆแต่พอเพียงไปครู่หนึ่งนึง เรามีปัญหาส่วนตัว เราก็เลยเลือกเขาเป็นที่ปรึกษา ขอคำแนะนำไปขอคำแนะนำมา เราก็คิดว่าเพลิดเพลินใจ รู้สึกดีขึ้น ถูกใจก็เลยเป็นคนรักกัน

ก่อนหน้านี้เห็นพูดว่ามักขอคำแนะนำแม่กับลิลลี่?

เจนนี่ : “เป็นบางเรื่อง เราไม่สามารถคุยกับแม่กับลิลลี่ได้ เราไม่อยากที่จะให้เขาเครียด ด้วยเหตุว่าลิลลี่ก็อีกทั้งเรียนรวมทั้งดำเนินงาน แม่ร่างกายก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว หนูก็เลยคิดว่าต้องมีที่ปรึกษา อย่างวันที่ถ่ายเอ็มวีเราก็สนิทกันพอเหมาะพอควร ในแบบมิตรภาพที่ดีต่อกัน เราก็เลือกทักไปหาเขา เขาบอกให้เรานิ่ง เราเอาอย่างที่เขาบอกทั้งหมดทุกอย่าง มันก็ดีแล้วขึ้นเรื่อยๆเราก็เลยเลือกที่จะบอก จะขอคำแนะนำเขาเรื่อยๆมันเลยทำให้ความเกี่ยวข้องของเรามันเร็วขึ้น”

เป็นด้วยเหตุว่าเขาหล่อด้วยหรือไม่?

เจนนี่ : “ก็มีส่วนจ้ะ”

คนยิวติดใจอะไรที่อยู่ในตัวเจนนี่?

คนยิว : “เขาเป็นคนดังคนแรกที่ผมได้คุยด้วย รวมทั้งเขาไม่จองหองเลย เขาคุ้นเคย ทำให้ผมไม่ตื่นเต้น แต่ว่าพอเพียงเขาเริ่มมาขอคำแนะนำ เราก็คิดว่าเพศหญิงคนนี้น่าสงสาร เขาเล่าให้ฟังว่า เขาตั้งตัวมายังไง ตอนเด็กๆคืออะไร เราก็คิดว่าต้องการดูแลเพศหญิงคนนี้จัง พอใช้คุยกันเรื่อยๆเราก็คิดว่าเราดูแลเพศหญิงคนนี้ได้”

เจนนี่แอบกลัวรักครั้งนี้หรือไม่?

เจนนี่ : “ไม่ค่อยกลัวจ้ะ หนูคิดว่าถ้ามันใช่ก็ใช่ ถ้ามันไม่ใช่ก็ค่อยว่ากัน เป็นสุขทุกวันมันก็โอเคแล้ว เป็นเอาจริงๆโควิดมันก็มากมาย เราก็ไม่ทราบว่าจะจากกันวันไหน เราจำเป็นที่จะสร้างความสุขให้กันและกัน ให้ครอบครัวเป็นสุข ทั้งสองฝั่งก็โอเคแล้ว”

คนยิว : “ถ้าเราทำตัวดีอยู่แล้ว เขาก็คงจะไม่มีเหตุผลที่ต้องไปหาคนอื่นๆ ผมก็บอกเขาตลอดว่า ถ้าผมไม่ดีพอก็หาคนอื่นๆได้เลย”

ผู้ใดกันขอเป็นแฟนก่อน?

คนยิว : “ผมเอง คือเรื่องของเรามันมิได้สลับซับซ้อนขนาดนั้น มันเรียบง่ายกว่านั้นมาก เหมือนเราคุยกัน เราก็สนิทกันเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เราก็เลยคุยกันว่า เราปรับปรุงความเกี่ยวข้องของเราไปอีกเกณฑ์ดีไหม ผมจะได้ดูแลเขา
เจนนี่ : คราวหนึ่งที่เขาเชิญไปรับประทานข้าว ถ้าเรามิได้บอกผู้ใดกันว่าเราเป็นอะไรกัน แล้วถ้ามีภาพหลุดออกมามันก็จะเสียหายคราวหน้าได้ รวมทั้งคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ผิดด้วย กับการที่เราจะบอกผู้ใดกัน เราก็เลยตกลงใจบอกให้แจ้งชัดไปเลย แล้วคนยิวเขาก็ขอเราเป็นแฟน เราก็เลยตั้งสถานะบนเฟซบุ๊ก”

ผู้คนจำนวนมากมองว่าเรามูฟออนเร็ว?

เจนนี่ : “อย่างที่บอก หนูเป็นคนถูกใจความกระจ่าง ก็ไม่ต้องการที่จะอยากปิดบังอะไรแฟนคลับ การเปลี่ยนแฟนก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าขายหน้า แต่ว่ามันจะน่าขายหน้ามากกว่า ถ้าเกิดเราแอบคบกัน แล้วไม่บอกความจริง เราก็เลยตกลงใจ ถ้าเราคบกัน เราก็บอกทุกคน เรื่องมูฟออนเร็ว ถ้าเกิดมันใช่ มันเป็นสุข เราก็ไม่ต้องการที่จะอยากปล่อยเขาไป”

รอบกายว่ายังไงบ้าง?

เจนนี่ : “ครอบครัวโอเคแฮปปี้ แต่ว่าถ้าเป็นในส่วนของแฟนคลับ เขาก็จะมีแอนตี้บ้าง รับมิได้บ้าง เราก็มานั่งคุยกันว่า เราต้องทำใจนะ ก็ให้เวลาเขาหน่อย ยังไงเรา 2 คน ก็ค่อยพิสูจน์กันไป ว่าทำไมเราถึงต้องรักกัน”

แล้วเรื่องคบซ้อนล่ะ?

เจนนี่ : “อันนี้ไม่ใช่แน่นอนจ้ะ เนื่องจากว่าหนูไม่ใช่คนเฒ่าหัวงู ช่วงนี้คบกันมา 4 เดือนแล้วกำลังจะเข้าเดือนที่ 5”

คบกัน 5 เดือนแล้วบอกอยากมีลูก เอาความเชื่อมั่นและมั่นใจมาจากไหน?

เจนนี่ : “เวลาที่เขาบอกขอเป็นแฟน หนูก็คุยกับเขาเลย ว่าหนูเป็นคนต้องการมีลูกนะ จะยอมรับได้ไหมถ้าเราต้องการมีลูก ถ้าเกิดคบกันเกิน 3 เดือนแล้วโอเค ขอปล่อยตามธรรมชาติเลยได้ไหม เนื่องจากว่าต้องการมี เป็นถ้าใช่ก็ใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ค่อยว่ากัน แต่ว่าในใจเป็นเราต้องการมีลูก”

คบเจนนี่โดนกระแสอะไรบ้าง?

คนยิว : “ก็โดนหาว่าคบซ้อนหรือไม่ หรือมาเกาะกระแสเจนนี่หรือไม่ ผมว่ายากนะครับ ด้วยเหตุว่าเขาเป็นคนเฉลี่ยวฉลาด เรื่องดราม่าผมไม่ต้องการที่จะอยากเอาใจใส่มากมาย ด้วยเหตุว่าผู้ที่เขากล่าว เขาไม่เคยรู้เราจริงๆ”

เจนนี่ : “เมื่อก่อนเราเป็นหัวหน้า เราแข็งแรง ต้องต่อสู้ต้องปกป้อง แต่ว่าพอเพียงมีเขาเข้ามา เราคิดว่าเราเปลี่ยนเป็นเด็กหญิงคนนึง ได้เป็นเด็กหญิงที่ปรารถนาใครบางคนมาดูแล ธรรมดาอยู่ต่อหน้าแม่หรือต่อหน้าลิลลี่ เราต้องเป็นผู้นำครอบครัว เราต้องดูแล 2 คนนี้ เราต้องดูแลลูกน้องอีกมากมาย แต่ว่าพอเพียงมีเขาเข้ามา เราไม่เคยเป็นอย่างงี้ เราไม่เคยรับรู้คำว่าเหน็ดเหนื่อยไหมให้เขาทำให้ไหม”

ผู้คนจำนวนมากมองว่าเป็นช่วงโปรโมชั่น?

เจนนี่ : “โปรโมชั่นมีทุกคู่อยู่แล้ว แต่ว่าหนูบอกอนาคตมิได้ ถึงแม้ว่าจะคนยิวเขาสาบาน คำสัญญาเราก็บอกมิได้ อย่างที่บอกทุกคน ถึงแม้ว่าจะอนาคตจะคืออะไร หนูยอมรับได้หมด ถึงแม้ว่าจะเขาเหลวไหล นอกใจต้องเลี้ยงลูกผู้เดียวเราก็ยอมรับได้ ขอให้ขณะนี้เป็นสุขก็พอเพียง”

พบแม่อีกทั้ง 2 ฝ่ายมาแล้ว?

เจนนี่ : “เซอร์ไพรส์นิดหน่อยจ้ะ ด้วยเหตุว่าไม่ทราบว่าบ้านเขาทำธุรกิจห้องอาหาร คราวแรกเขาเชิญไปรับประทานข้าวที่ร้านค้าเขาก็ไม่บอกเรา เขาก็ไปชี้แนะว่านี่แม่เรานี่บิดาเรา ก็ดีแล้วใจ ไม่ดีใจที่เขามีฐานะ แต่ว่ามันจะสามารถลบคำปรามาสบางคำได้ ที่พูดว่าคนยิวมาเกาะเรา ไม่มีหน้าที่การงาน คราวแรกแม่พูดว่าเป็นเอฟซีเรา ตัวจริงน่ารักน่าชัง ตอนต้นเราก็กลัวๆ”

คนยิว : “พบแม่กับลิลลี่แรกๆก็ตื่นเต้นด้วยเหตุว่าเขาดังกันอีกทั้งบ้าน พบแม่เกดคราวแรกทราบเลยว่าเจนนี่รู้เรื่องใจดีมาจากผู้ใดกัน แม่เกดใจดีมากมาย”

แม่เกด : “คนนี้ผ่านค่า แม่พบคราวแรกก็รู้สึกถูกใจถูกใจเขาเหมือนลูก เขาถูกใจอ้อน”

ลิลลี่ : “ตอนต้นก็รู้สึกหวง แต่ว่าเราก็ตามใจพี่ กลัวเขาดูแลพี่เจนไม่ดี”

วางแผนสมรสแล้วเหรอ?

แม่เกด : “คิดไว้แล้วจ้ะ ยามดูไว้นับเป็นเวลาหลายเดือนแล้วจ้ะ”

เจนนี่ : “วางไว้ 3 ครั้งแล้วจ้ะ คราวแรกเป็นเดือนสิงหาคม อย่างที่บอกถ้าแต่งก่อนแล้วมีน้องจะได้ไม่เสียหายมากมายแต่ตอนนั้นเดือนสิงหาคมโควิดหนักมากมาย ก็เลยเลื่อนมาเรื่อยๆก็วางไว้ปีถัดไปแต่ว่ายังกำกวม”

คนยิว : “พร้อมนะครับ ที่บ้านผมให้ศึกษาด้วยตัวเอง ให้ลูกตกลงใจด้วยตัวเองถ้าลูกโอเค”

วางแผนยังไงบ้าง?

เจนนี่ : “ที่มีข่าวพูดว่าเราท้อง เราพูดว่าเราอ้วนแต่ว่าเอาตรงๆนะ เดือนนี้เมนส์หนูยังไม่มา ซึ่งเรายังมิได้ตรวจ หนูก็เลยไปบอกแม่ แม่ก็เลยพูดว่าถ้าใช่ก็สักครู่ทำพิธีสมรส แต่ว่าถ้าไม่ใช่ก็ดำเนินงานกันต่อ ซึ่งช่วงนี้เราก็ยังไม่กล้าตอบต้องคอยผลตรวจออกมาแจ้งชัด ถ้าท้องเราบอกแน่นอน พอเพียงคนทักมากมายๆเราก็แอบคิด จริงๆอาทิตย์นี้ เมนส์ต้องมา แต่ว่าพอเพียงมันไม่มา เลยขอคำแนะนำแม่ แต่เรายังไม่ตรวจ มีความคิดว่าเราต้องออกรายการให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ก่อน ไม่เช่นนั้นสักครู่พบดราม่าใหม่ เราจะไม่ทันตั้งตัว แต่ว่าถ้าใช่ขึ้นมาเราบอกแน่นอน”

อาจารย์เป็นเยี่ยมทำนายดวงชะตากึ่งกลางรายการ?

อาจารย์เป็นเยี่ยม : “ยามแต่งขอให้ก่อนเดือน 6 ปีถัดไป จะเป็นยามที่ดี ด้วยเหตุว่าปีเกิด ปีหมูกับปีเถาะ ของทั้งสองเติมเต็มเร็วมาก”

กระแสแอนตี้เป็นไงบ้าง?

เจนนี่ : “ก็ต่ำลงจ้ะ วันแรกเปิดตัว คอมเมนต์เป็น 100,000 ด่าทอ 8-9 หมื่น เราก็เศร้าใจนะเศร้าใจที่ทำให้ครอบครัวเขาไม่ค่อยสบายใจ ช่วงนี้เราก็พิสูจน์กันไปเรื่อยๆช่วงนี้กระแสก็ดีแล้วขึ้น”

วันเกิดเจนนี่ให้อะไร?

คนยิว : “ให้เค้กและเงินนะครับ เป็นเงินแรกที่ผมดำเนินงานในแวดวงสำราญใจ”

เจนนี่ : “ชอบใจจ้ะ ขณะนี้เงิน ที่ได้จากการทำงานเขาจะเอาไว้ที่หนูหมดเลย ชอบใจจ้ะสุดที่รักเขาเอาใจใส่เรา ต้องการให้เรา ทั้งๆที่เราไม่ได้อยากต้องการ”

คนยิว : “เขาน่ารักมากมาย รีดชุดทำงานให้ใส่ ชาร์แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือให้ ปรุงอาหารให้ เตรียมทั้งหมดทุกอย่างให้ผมเป็นระเบียบ”

เจนนี่ : “เราคิดว่าเราได้มาก่อน ถ้าเราไม่ให้กลับไปวันนึงเขาบางทีก็อาจจะไปก็ได้ ถ้าจ่ายตลาดใหญ่ให้ของพวกนี้ให้เมื่อไรก็ได้”

หัวข้อบูลลี่ที่โดนเปรียบเทียบกับลิซ่า BLACKPINK?

เจนนี่ : “จริงๆหนูมิได้ร้องไห้มานานแล้ว ด้วยเหตุว่าก็ผ่านอะไรมามากมาย แต่ว่าวันนั้นเป็นวันที่เราเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมากมาย แล้วมาพบคลิปน้องคนนึง อัดคลิปว่าเราเป็นสัมภเวสี เป็นไส้เดือนดิน แล้วเราหลงไปอ่านคอมเมนต์ราวๆ 10 นาที โดยที่เรามิได้บอกผู้ใดกัน ซึ่งจริงๆเราไม่ค่อยได้อ่านคอมเมนต์แล้ว แต่ว่าวันนั้นมันลงไป แล้วน้ำตามันก็ไหลเรื่อยๆนึกในใจว่าเราไปทำอะไรให้เขา ทำไมเขาต้องอะไรกับเราขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่เรารู้สึกไม่ไหว”

คำบอกเล่าไหนแรงที่สุด?

เจนนี่ : “สำเหนียกตนเองหน่อยนะ เอ็งมันเพียงแค่สัมภเวสีเป็นไปไม่ได้ระดับเขาหรอก ไม่โกรธแต่ว่าเศร้าใจ เราก็อยู่ในเขตพื้นที่ของเรา เราก็เพียรพยายามกระทำตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ไม่มีผู้ใดกล้าเอาตนเองไปเทียบกับน้องลิซ่าหรอก เราก็รู้ตัวว่าเราอยู่ในระดับไหน เราดำเนินงานตรงไหนเพลงเรามันก็แค่เพลงใต้ ของเขาระดับนานาชาติ ซึ่งมันเปรียบเทียบกันมิได้”

พอเพียงเราทราบปั๊บ เราโกรธด้วยไหม?

คนยิว : “โกรธเป็นฟืนเป็นไฟนะครับพี่ แต่ว่าเราก็เพียรพยายามใจเย็นรวมทั้งอธิบายให้เขาฟังว่าเวลานี้ใครๆก็มีโทรศัพท์ ใครๆก็สามารถอัดคลิปกล่าวได้ กล่าวเรื่องอะไรก็ได้ เราอย่าไปเก็บมาเอาใจใส่เลย มาจุดโฟกัสงานของเราดีมากกว่า”

เจนนี่ : “เราก็เก็บโทรศัพท์เลย และพาไปกินหมูกระทะ”

ยืนยันมิได้เอาอย่าง?

เจนนี่ : “เรื่องชิงม้า หนูชิงมาตั้งแต่เข้าแวดวงใหม่ๆเขาหาว่าเราไปตัดตามน้อง และมีอยู่รูปหนึ่งเป็นรูปที่หนูถ่ายแบบไว้เมื่อปีที่ผ่านมา เขาพูดว่าน้องลิซ่าตัดชุดเอาอย่างหนู ซึ่งหนูมองว่าผู้ที่โพสต์น่าจะเป็นคนปั่น ด้วยเหตุว่าเขารู้อยู่แล้วว่า ถ้าเขาโพสต์อย่างงี้ แฟนคลับของน้องต้องโกรธหนูต้องเกลียดชังหนู ตั้งใจโพสต์ให้คนทัวร์ลงหนู”

การโดนใส่ร้ายป้ายสีอะไรเราถึงไม่ยินยอม?

เจนนี่ : “บางโอกาสเรื่องบางเรื่อง ถ้ามันไม่ถึงเรา เราก็ปล่อยผ่านได้ ด้วยเหตุว่าเราเคยต่อสู้แล้ว มันไม่ได้ผลดีเลย เราก็เลยเลือกที่จะนิ่งเฉย แต่ว่าเรื่องที่นิ่งมิได้ เป็นมีคนมาใส่ร้ายป้ายสีว่าแม่หนูเป็นโรคมะเร็งทิพย์ ซึ่งเรื่องนี้เรารับมิได้ เป็นแม่เราเจ็บไข้จริง มีการรักษา แต่ว่าคุณเอาไปโพสต์ และมีคนเข้ามาด่าว่ามันตอแหลอีกทั้งแม่อีกทั้งลูก อย่างเราไปเล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดกาญจนบุรี มีภาพยืนยันว่ามีคนดูคอนเสิร์ตเรา 5,000 อัพ แต่ว่าเขาไปโพสต์ว่ามีผู้ชมเพียงแค่ 5 คน ผู้จัดงานเห็นก็เลยทักมาบอกว่าทำไมคอนเสิร์ตไร้คน จะขอแคนเซิลงาน ซึ่งอันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เขาใส่ร้ายป้ายสีเราเพื่อให้เราโดนยกเลิกงาน เราก็ต้องมีฟ้องศาลบ้างเพื่อให้เป็นกรณีแบบอย่าง”