21 - ยึดจ่าฝูงแล้ว! 'กุนโดกัน'เบิ้ล แมนซิตี้ ฟอร์มดุจริง บุกอัด เวสต์บรอมวิช เละ 5-0 (ชมคลิปไฮไลท์)

ยึดจ่าฝูงแล้ว! ‘กุนโดกัน’เบิ้ล แมนซิตี้ ฟอร์มดุจริง บุกอัด เวสต์บรอมวิช เละ 5-0 (ชมคลิปไฮไลท์)

22 2 - ยึดจ่าฝูงแล้ว! 'กุนโดกัน'เบิ้ล แมนซิตี้ ฟอร์มดุจริง บุกอัด เวสต์บรอมวิช เละ 5-0 (ชมคลิปไฮไลท์)

คงต้องบอกว่า เรือใบสีฟ้า น่ากลัวจริงๆ ในนาทีนี้ เมื่อล่าสุด บุกไปยิงรัวใส่เจ้าบ้านแบบไม่ยั้ง โดยขึ้นนำไปถึง 4-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังมาได้เพิ่มอีก 1 ประตู ทำให้จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อัด เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 5-0 ทำแต้มแซงแมนยู 1 คะแนน ขยับขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงแล้ว

ศึกบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020/21 เมื่อคืนวันอังคารที่ 26 ม.ค. 2564 “เดอะ แบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เปิดสนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ต้อนรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นาทีที่ 3 ทีมเยือนแทบได้ประตูขึ้นนำ ฟิล โฟเด้น เลี้ยงบอลเข้าเขตโทษ ก่อนยิงด้วยซ้าย บอลไปไถล ดาร์เนลล์ เฟอร์ทดลอง แล้วเปลี่ยนแปลงทาง แต่ทว่า แซม จอห์นสโตน ยังพุ่งปัดบอลไปชนเสาเหลี่ยมนอกกระเด้งออกไป
GOAL!! แต่ว่าแล้ว นาที 6 ซิตี้ ก็ออกนำอย่างเร็ว ยกเอา คันเซโล่ เปิดบอลจากแดนข้างหลังให้ อิลคาย กุนโดกัน เอาบอลลงพื้นแล้วสับไกจากหน้าเขตโทษ ตอนนี้ แซม จอห์นสโตน ทำได้แต่ว่ามองดูบอลที่พุ่งเข้าไปตุงตาข่าย เรือใบสีฟ้า บุกนำ 1-0

23 - ยึดจ่าฝูงแล้ว! 'กุนโดกัน'เบิ้ล แมนซิตี้ ฟอร์มดุจริง บุกอัด เวสต์บรอมวิช เละ 5-0 (ชมคลิปไฮไลท์)
นาที 15 ริยาด ผีเรซ ปั่นด้วยซ้ายจากระยะไกล แต่ว่าบอลลอยหลุดกรอบออกข้างหลังไป
GOAL!! นาที 22 ทีมเยือนได้ประตูลำดับที่สอง แบบน่าจะมีหัวข้อให้ได้เอ่ยถึงต่อ เมื่อ ยกเอา คันเซโล่ เปิดบอลให้ อิลคาย กุนโดกัน ไปถึงสุดเส้นข้างหลัง ซึ่งไลน์แมนยอมแพ้ว่า เป็นลูกล้ำหน้าไปแล้ว แต่ทว่าผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้หยุดเล่น กุนโดกัน ก็เลยจ่ายกลับไปให้ คันเซโล่ ปั่นโค้งด้วยซ้ายจากเส้นเขตโทษ บอลพุ่งทิ่มสามเหลี่ยมเข้าประตูไปแบบสุดงาม จากนั้น VAR ก็เลยดำเนินการ แล้วชี้ว่า จังหวะดังกล่าวมาแล้วข้างต้นไม่ล้ำหน้า ทำให้ ซิตี้ ได้ประตูนำห่าง 2-0
นาที 28 เวสต์บรอมวิช ได้ลุ้นบ้าง โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ จ่ายให้ คัลลั่ม โรบินสัน ได้ยิงแบบฉีดยาด้วยขวา แต่ว่าบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

24 - ยึดจ่าฝูงแล้ว! 'กุนโดกัน'เบิ้ล แมนซิตี้ ฟอร์มดุจริง บุกอัด เวสต์บรอมวิช เละ 5-0 (ชมคลิปไฮไลท์)
GOAL!! จากนั้นเพียง 2 นาที เป็น ซิตี้ ที่ได้ประตูเพิ่มเติม โรเมน ซอว์เยอร์ส ทิ่มอลให้ อิลคาย กุนโดกัน บริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนที่ กุนโดกัน จะเลี้ยงบอลไปยิงด้วยซ้าย กลายเป็นประตูลำดับที่สองของเจ้าตัว และก็ส่งให้ แมนซิตี้ หนีห่างไปเป็น 3-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม
GOAL!! ช่วงต่อเวลาพิเศษบาดเจ็บของครึ่งแรก ทีมเยือนได้ประตูลำดับที่สี่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เปิดบอลให้ ริยาด ผีเรซ ที่อยู่แทบสุดเส้นข้างหลัง ก่อนที่จะเลี้ยงหักเข้ากึ่งกลาง แล้วสับไกยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไป เรือใบนำไกลถึง 4-0 และก็จบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง นาที 48 ริยาด ผีเรซ ได้ช่องซัดเต็มข้อ แต่ว่าบอลไปติดบล็อก
นาที 51 โรดรี้ ทดลองยิงไกลดูบ้าง แต่ทว่าบอลพุ่งชนชนคานแล้วหลุดออกข้างหลังไป
GOAL!! นาที 57 ประตูที่ห้ามาจนได้ ริยาด ผีเรซ ป้ายบอลเข้ากึ่งกลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แปบอลแบบจ่อๆเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ซิตี้ นำ 5-0
ขณะที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม ทำให้จบเกมการประลอง เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปแบบเละเทะ 5-0 เก็บ 3 คะแนน ทำให้มีเพิ่มเป็น 41 แต้ม จาก 19 นัดหมาย แซงหน้า แมนยู ขึ้นไปรั้งผู้นำฝูงของตารางคะแนนได้สำเร็จ
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ : เวสต์บรอมวิช – แมนฯ ซิตี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสู่สนาม
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน : แซม จอห์นสโตน (GK), ดาร์เนลล์ เฟอร์ทดลอง, ดาร่า โอเชีย, เซมี่ อาจายี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, โรเมน ซอว์เยอร์ส, เจค ลิเวอร์มอร์, คาร์แลน เอ็งรนท์, มาเตอุส เปไรร่า, คัลลั่ม โรบินสัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ชอน โมราเอส (GK), ยกเอา คันเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินศาสนาเชนเก๋, อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้, ฟิล โฟเด้น, แบร์ที่นาโด้ ซิลวา, ริยาด ผีเรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง