pen - เปรียบเทียบเส้นทาง “เพนกวิน” กับ “ไผ่-สมขั้น” ฟ้าเหว !!

เปรียบเทียบเส้นทาง “เพนกวิน” กับ “ไผ่-สมขั้น” ฟ้าเหว !!

กลายเป็นเรื่องที่บีบคั้นตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกระทั่งเกือบจะหาทางลง หาทางออกไม่พบแล้ว สำหรับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้งกินน้ำ” ที่ยังประกาศไม่กินอาหาร (ดื่มแต่นม เกลือแร่ น้ำ) โดยยิ่งไปกว่านั้น นายพริษฐ์ ที่อ้างถึงว่า ทำไม่กินอาหารมานานเดือนกว่าแล้ว โดยบีบคั้นกับศาลให้ได้รับการประกันตัว ภายหลังเป็นเชลยในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวกับ พระเจ้าอยู่หัว และสถาบันพระมหากษัตริย์ และความผิดพลาดอื่นอีกหลายข้อกล่าวหา ต่างบาปต่างวาระ

ที่จำเป็นต้องบอกว่า พวกเขา (พริษฐ์ และ ปนัสยา) เริ่มบีบคั้นตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากขั้นตอนการต่อสู้เพื่อได้รับการประกันตัว ภายหลังมีความพากเพียรยื่นคำร้องขอประกันตัวอยู่หลายคราว ทำทุกแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหลักทรัพย์ เพิ่มนายประกันที่มีความรู้สึกว่ามีความน่าเชื่อถือ หรือแม้กระทั้งการอ้างเรื่องปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ การเล่าเรียน (การสอบ) แต่ก็ยังไม่เกิดผล

ด้วยเหตุว่าศาลชูคำขอทุกหนโดยให้เหตุผลแบบเดิม ก็คือ ยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ซึ่งความหมายก็คือ นอกเหนือจากความผิดพลาดที่ถูกฟ้องมีอัตราโทษสูงแล้ว ที่สำคัญก็คือ เชลยยังมีทีท่าเคลื่อนในลักษณะแบบเดิม บ่อยๆไม่กลัวข้อบังคับ โดยยิ่งไปกว่านั้นความประพฤติปฏิบัติที่ถูกป้ายความผิดในเรื่องการ “อาจเอื้อม” สถาบันพระมหากษัตริย์

ถึงแม้ที่ผ่านมา เชลยเหล่านี้ชอบอ้างถึงว่า พวกเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบเท่าที่ศาลยังไม่วินิจฉัยว่ามีความผิด แต่ข้อบังคับก็มีข้องดเว้น และเป็นดุลพินิจของศาล แม้ผู้ต้องหาหรือเชลยยังมีทีท่าเคลื่อนปฏิบัติในสิ่งที่ถูกฟ้องในแบบเดิมบ่อยๆโดยยิ่งไปกว่านั้นการเคลื่อนไหวที่กระทบกับความรู้สึกของราษฎรเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น การกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่หยุดหย่อน

ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเชลยบางคนที่เคยเคลื่อนในแบบเดียวกันมาก่อน และถูกฟ้องเป็นเชลยในคดีแบบเดียวกัน ข้อกล่าวหาเดียวกัน อย่างเช่น นายปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์” ที่ได้รับการประกันตัวเป็นคนแรก โดยมีเงื่อนไขว่า จะไม่เคลื่อนอ้างอิงสถาบันฯให้กำเนิดความเสื่อมโทรม ไม่เคลื่อนร่วมประชุมในลักษณะแบบเดิมอีก รวมไปถึงยืนยันว่าแม้ได้รับการประกันตัวออกไปจะเลี้ยงชีพหาเงินเลี้ยงตนเอง อะไรแนวๆนี้
หรือแม้กระทั้งกรณีของ นายจตุๆภัทร์ บุญเจริญรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” และ นายสมยศ ต้นไม้เกษมสุข ที่เพิ่งจะได้รับการประกันตัวไปพร้อมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ยื่นข้อแม้ต่อศาลในลักษณะคล้ายกัน ก็ได้ออกมาอยู่ด้านนอกเป็นระเบียบแล้ว ขั้นต่ำก็ได้มีเวลา “สุดสูดดมอิสรภาพ” และมีอิสระสำหรับในการต่อสู้คดี สามารถปรึกษาทนายความ และคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวในการต่อสู้คดีตามข้อกล่าวหาได้อย่างมาก ส่วนผลจะออกมาแบบไหนค่อยมาว่ากัน

ช่วงเวลาที่หันมาพิเคราะห์ขั้นตอนการต่อสู้ของ ทั้งยัง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ยังยืนยันขั้นตอนการแบบเดิม โน่นคือ ยังยืนยันหลักการเดิมตามความเลื่อมใสของตนเองว่า วิธีการแบบนี้จะได้ผล โน่นคือ อ้างถึงหลักการความบริสุทธิ์ตราบเท่าที่ยังไม่มีคำตัดสินความผิดพลาดออกมา รวมไปถึงใช้วิธีเคลื่อนของมวลชนจากข้างนอกร่วมบีบคั้นศาล ประสานกับการเคลื่อนไหวไม่กินอาหาร (แต่ ดื่มนม โอวัลติเตียนน ไมโล น้ำ เกลือแร่) หรือแม้กระทั้งการมีทีท่าการเคลื่อนไหวในแบบ “ล้ำเส้น” โน่นคือ การ “ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม” การฝ่าฝืนอำนาจศาล เป็นต้น

แน่นอนว่า ขั้นตอนการต่อสู้คดีในแบบดังที่กล่าวถึงแล้ว นับว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาหรือเชลย แม้เห็นว่าตนเองได้ประโยชน์ หรือเห็นว่าถูก แต่ขณะเดียวกัน เมื่ออ้างถึงว่าตนเองต่อสู้เพื่อสาธารณะ ก็จำเป็นต้องยอมรับได้กับเสียงวิจารณ์จากข้างนอกถึงขั้นตอนการเคลื่อนของตนเอง ว่าคนอื่นเขามีความเห็นเช่นไรด้วย

ปัจจุบัน “นางสุริยารัตน์ ชิวารักษ์” คุณแม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” ได้เดินทางมายื่นประกันตัวบุตรชายอีกที โดยอ้างถึงว่า ตอนนี้ลูกชายมีลักษณะอ่อนเพลียมากมาย ผิวหนังมีลักษณะแห้ง มีลักษณะวูบตลอดระยะเวลา และที่สำคัญคือ พบว่าถ่ายออกมาเป็นชิ้นเนื้อ จากลักษณะอาการที่เกิดขึ้น ก็เลยจำเป็นต้องมายื่นขอรับรองให้เร็วที่สุด แต่ทนายความกล่าวว่า ได้โอกาสที่จะไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งตัวเองก็ยังยืนยันว่าจะขอเดินหน้ารับรองให้เต็มกำลัง
นางสุริยารัตน์ บอกว่า แม้วันนี้ผลออกมาว่า “เพนกวิน” ไม่ได้ประกันตัว มีความรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเท่ากับเจตนาให้เพนกวินเสียชีวิตอย่างทรมาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกชายไม่ควรจะได้รับ ถึงแม้ในเวลาถัดมาทางกรมราชทัณฑ์จะแถลงยืนยันว่า อาการของ นายพริษฐ์ เพียงแค่อ่อนเพลีย ไมได้มีลักษณะรุนแรงแต่อย่างใด

แม้ว่าจะมีรายงานว่า มีความพากเพียรยื่นรับรองกับเชลยรายอื่นๆด้วย อย่างเช่น นายอานนท์ นำภา นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นายแสงพงศ์ จาดนอก เป็นต้น แต่ที่จำเป็นต้องโฟกัสไปที่ นายพริษฐ์ และ นางสาวปนัสยา เนื่องมาจากสองคนนี้เลือกใช้วิธีไม่กินอาหารเพื่อต่อต้าน หรือบีบคั้นศาลให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วครั้งคราว

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างขึ้นกับดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวออกไปไหม ซึ่งจำเป็นต้องพิเคราะห์ตามเหตุผลที่มีการแจกแจงออกมาหลังการสั่งคดีทุกหน แต่สำหรับผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเห็นว่าขั้นตอนการที่ทั้งยัง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ดำเนินการอยู่โน่นไม่น่าจะประสบผลสำเร็จ
ตรงกันข้าม จะยิ่งบีบคั้นรัดคอตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆประกอบกับกระแสจากข้างนอก “แผ่วๆ” กระทั่งเหนื่อยกระตุ้นอะไรก็ตามเลย มันก็ยิ่งดำดิ่งลงเหว !!